by เราจะทำลายหมู่บ้านชิงหัวโดยไม่ต้องจ่ายราคาสูงได้อย่างไร?
เย่เฉินและคนอื่น ๆ พูดคุยกันเป็นเวลานานและในที่สุดก็มีแผนใหม่ขึ้นมา ในตอนแรกพวกเขาตัดสินใจว่าพันธมิตรดาบทองคำซึ่งเฝ้าดูอย่างกระตือรือร้นจากด้านข้างจะไม่กล้าโจมตีนิกายซวนหลิงจากด้านหลัง เพราะด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงความสามารถนี้ได้
นอกจากนี้ การทำลายล้างนิกายหยินหยางครั้งก่อนยังทำให้พันธมิตรดาบทองคำตกใจ พวกเขาจะไม่กล้าเสี่ยงเช่นนี้หากพวกเขาไม่มั่นใจในชัยชนะ ต่อต้านนิกายเสวียนหลิงในขณะนี้
พวกเขาแค่ต้องการรอโอกาสที่จะจู่โจมนิกาย Xuanling ในอนาคต เมื่อพวกเขาเริ่มแอบโจมตีนิกาย Xuanling นั่นหมายความว่าการต่อสู้ชีวิตและความตายระหว่างทั้งสองนิกายได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว และทั้งสองนิกายจะกลายเป็นมนุษย์ ศัตรู
ดังนั้นการตัดสินใจเริ่มสงครามอันไม่มีที่สิ้นสุดระหว่างสองนิกายจึงเป็นการตัดสินใจที่สำคัญมากเช่นกัน การตัดสินใจนี้อาจนำไปสู่การทำลายล้างนิกายโดยสิ้นเชิงโดยตรง
นิกายหยินหยางเป็นตัวอย่างที่ดี พวกเขาพยายามแอบโจมตีนิกายซวนหลิงเท่านั้น พวกเขาถูกค้นพบก่อนที่พวกเขาจะทำอะไรได้และถูกทำลายอย่างรวดเร็ว และแม้แต่บรรพบุรุษทั้งสามของเทพเจ้าก็เสียชีวิต โดยไม่มีข้อยกเว้น
การล่มสลายของนิกายหยินหยางนั้นน่าตกใจมากจนนิกายระดับสองและสามบางนิกายที่เป็นศัตรูกับนิกายเสวียนหลิงตัวสั่นด้วยความกลัว
เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสำนักซวนหลิงที่จะจัดการกับนิกายเล็ก ๆ เช่นพวกเขา
จากนั้นนิกายเล็ก ๆ เหล่านี้ก็กลายเป็นคนเชื่องมากขึ้นและไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป นี่คือพลังของแบบอย่าง!
หลังจากที่เย่เฉินตัดสินว่าพันธมิตรดาบทองคำจะไม่กล้าดำเนินการกับนิกายซวนหลิงในช่วงเวลาสั้น ๆ เขาก็ตัดสินใจใช้วิธีการที่ดังสนั่นเพื่อกวาดล้างกองกำลังที่เหลืออยู่ในหมู่บ้านชิงหัวอย่างรวดเร็ว
เย่เฉินเตรียมที่จะดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิต
ขั้นตอนแรกคือการชักชวนพวกเขาให้ยอมจำนน พระภิกษุทุกคนที่อยู่ใต้จินตันสามารถออกไปได้อย่างอิสระตราบใดที่พวกเขายอมจำนน มอบถุงเก็บของ สาบานต่อสวรรค์ และไม่เป็นศัตรูของนิกายซวนหลิงอีกต่อไป กระจายและแบ่งศัตรูทางจิตใจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างศัตรูในระดับต่างๆ
ขั้นตอนที่สองคือการออกจากช่องทางหลบหนี ปล่อยศัตรูบางส่วนเพื่อหลบหนี ซุ่มโจมตีในทิศทางหลบหนีนี้ และทำลายศัตรูเป็นชุด ๆ ด้วยวิธีนี้ ความกดดันจะน้อยลงและง่ายขึ้น และยังสามารถแบ่งศัตรูและแยกย้ายกันไปได้อีกด้วย การโจมตีของพวกเขา
ขั้นตอนที่สามคือการปิดล้อมเมือง การโจมตีที่รุนแรงต้องใช้อำนาจการยิงที่หนักหน่วง
แต่เมื่อพูดถึงผลที่แท้จริงของการต่อสู้กับศัตรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญหน้ากับพระที่แปลงร่างเป็นพระเจ้า หินวิญญาณคุณภาพสูงจะมีพลังได้มากขนาดไหน?
มันยังต้องมีการทดสอบในทางปฏิบัติ ด้วยการทดสอบเอฟเฟกต์จริงนี้เท่านั้นที่เราจะปลดปล่อยพลังของปืนใหญ่พลังงานแสงได้อย่างเต็มที่
หากพลังของปืนใหญ่พลังงานแสงสามารถบรรลุผลตามที่คาดหวังไว้ในตอนแรก เย่เฉินจะไม่มีความกลัวต่อจากนี้ไป เมื่อเขาเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลัง เขาจะใช้หินวิญญาณที่ดีที่สุดเพื่อทุบตีเขาจนตาย หากนัดเดียวไม่ได้ผล หลังจากใช้ปืนใหญ่สองกระบอก เย่เฉินก็มีหินวิญญาณอยู่แล้ว!
เย่เฉินส่ง Tang Yin, Wan Duoduo, Qin Yueyao, Zhou Zhentian, Li Tie และ Li Pengguo เพื่อนำการซุ่มโจมตีสามร้อยไมล์ทางตะวันออกของเมือง Luo วางอวนลาก และสร้างรูปแบบเวทย์มนตร์ต่างๆ ทีละตัว
เพียงรอให้เย่เฉินเปิดช่องว่างในเมืองหลัวและปล่อยศัตรูบางส่วน
Ye Chen และ Hu Xiaoting อยู่ในเมือง Luo เพื่อควบคุมการต่อสู้ที่นี่
หลังจากที่ทุกอย่างพร้อมแล้ว แผนก็เริ่มถูกนำมาใช้ เย่เฉินส่งอาจารย์จางไปบินสูงเหนือเมืองหลัวด้วยตนเอง และตะโกนเข้าไปในเมืองผ่านแนวป้องกันของเมืองหลัว:
“ถึงเพื่อนลัทธิเต๋าทุกคนที่ประจำการอยู่ในเมืองหลัว ฉันชื่อ Da Biao ผู้นำของนิกายซวนหลิง
ในนามของนิกายซวนหลิง ผู้นำนิกายนี้ชี้ให้เห็นเส้นทางที่ชัดเจนแก่เพื่อนลัทธิเต๋าทุกคน
หมู่บ้าน Qinghua ถูกแยกออกจากนิกาย Xuanling ของเราด้วยภูเขาและแม่น้ำหลายพันลูก และไม่มีการติดต่อกันใด ๆ ระหว่างพวกเขา ก่อนหน้านี้คุณร่วมมือกับนิกายอื่น ๆ เพื่อทำสงครามทำลายล้างนิกายกับนิกาย Xuanling ของเรา
เรื่องนี้มาถึงแล้ว
นิกายของเราสามารถให้พระภิกษุระดับต่ำเหล่านั้นที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างบริสุทธิ์ใจมีโอกาสได้เกิดใหม่
พระภิกษุทุกคนที่อยู่ใต้ Fanjindan ควรมอบถุงเก็บของและสาบานต่อสวรรค์นับจากนี้ไป พวกเขาจะไม่เป็นศัตรูกับนิกายซวนหลิงของเราเลย ฉัน นิกายซวนหลิง จะปล่อยคุณไปและปล่อยคุณไปอย่างอิสระ
น้ำอมฤตสีทองและพระภิกษุที่สูงกว่าต้องรับผลของการตัดสินใจของคุณ มอบทรัพยากรการเพาะปลูกส่วนตัวและนิกายทั้งหมด และฆ่าตัวตาย
เรารับประกันความปลอดภัยของลูกศิษย์ระดับต่ำของคุณ
ตอนนี้ พระภิกษุทุกคนที่อยู่ใต้แกนทองคำที่เต็มใจจากไปอย่างสงบสามารถออกจากเมืองจากทางทิศตะวันออก สาบานแห่งสวรรค์ และมอบถุงเก็บของภายใต้การดูแลของเรา จากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทางได้อย่างอิสระ .
อีกสามชั่วโมงเราจะโจมตีเมืองด้วยกำลัง และพระภิกษุทั้งหมดในเมืองจะตายไม่เหลือใครเลย
รีบหน่อยมีเวลาแค่สามชั่วโมงเท่านั้น”
ผู้นำนิกายจางกลับมาทันทีหลังจากที่เขาตะโกนเสร็จ วงล้อมทางตะวันออกของลั่วเฉิงก็ค่อยๆ เปิดทางออกไปไม่ไกลนัก มีสาวกสร้างรากฐานนิกายซวนหลิงจำนวนมากรออยู่ที่นั่น
ในตอนแรก ไม่มีพระภิกษุออกจากเมือง จนกระทั่งหนึ่งชั่วโมงต่อมา ชี่ที่กลั่นแล้วจำนวนเล็กน้อยก็ค่อยๆ ออกจากเมือง พวกเขามอบถุงเก็บของ สาบานต่อสวรรค์ แล้วจากไป
ตามที่คาดไว้ สาวกที่สร้างรากฐานของสำนักซวนหลิงไม่ได้ทำสิ่งที่ยากสำหรับพวกเขา เมื่อเห็นเหล่าสาวกเหล่านั้นจากไปอย่างปลอดภัย สาวกบนเวทีกลั่นพลังชี่จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มออกมาจากเมืองเป็นกลุ่มเพื่อยอมจำนน โดยทางอ้อม การสร้างพระภิกษุก็ออกมาจากเมืองเพื่อถวายตัว
เมื่อเวลาใกล้เข้ามา สาวกระดับต่ำจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และพระภิกษุที่สร้างรากฐานก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ
พระภิกษุก็ไม่โง่เช่นกัน เมื่อถึงเวลา และเริ่มโจมตีเมือง พระภิกษุทั้งหมดในเมืองก็จะตายโดยไม่มีข้อยกเว้น สำนักหยางเมื่อก่อนเคยเป็นมนุษย์ สิ่งที่ทุกคนรู้
พระภิกษุระดับต่ำเหล่านี้ไม่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของนิกายมากนัก
ดังนั้น เมื่อพูดถึงชีวิตและความตายของพวกเขาและชื่อเสียงของนิกาย พวกเขาจะเลือกชีวิตของตัวเองอย่างแน่นอน เมื่อเห็นว่านิกายไม่ได้จงใจหยุดศิษย์ระดับต่ำเหล่านี้จากการหลบหนี
เหล่าสาวกที่หลบหนีเร็วก็ถูกปล่อยตัวไปโดยไม่ลำบากใจ ดังนั้น พระภิกษุจำนวนมากในอาคารฐานรากและแท่นกลั่นพลังชี่จึงรุมออกไปจากเมือง มิฉะนั้น เมื่อถึงเวลาก็ไม่สามารถออกจากเมืองได้
ปัจจุบันหมู่บ้านชิงหัวมีสาวกน้อยกว่า 50,000 คนในเมืองหลัว ก่อนสองชั่วโมง ผู้คนส่วนใหญ่ 50,000 คนหนีไป เหลือสาวกที่ตายยากน้อยกว่าหนึ่งพันคนในระดับกลั่นพลังชี่และการสร้างรากฐาน
เมืองหลัวซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองใหญ่ จู่ๆ ก็มีพระสงฆ์เหลืออยู่เพียงพันคนเท่านั้น ทันใดนั้นทั้งเมืองก็ดูเงียบสงบขึ้นมาก ในเวลาเดียวกัน บรรยากาศที่โดดเดี่ยวและเศร้าก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางพระภิกษุ
เหล่านักบวชจินตันไม่ถึงร้อยและสิบกว่าคนอดไม่ได้ที่จะแบ่งออกเป็นสี่หรือห้ากลุ่ม ทั้งใหญ่และเล็ก นี่คือการกระจายอำนาจภายในของหมู่บ้านชิงหัวของพวกเขา
เมื่อเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
ในที่สุดสามชั่วโมงก็มาถึง แต่สิ่งที่แปลกก็คือการโจมตีที่วางแผนไว้แต่เดิมไม่เกิดขึ้น
พระที่ประจำการอยู่ในขบวนดูน่าสงสัย แต่ละคนคิดคำนวณเล็กๆ น้อยๆ ในใจ
ตกกลางคืน เนื่องจากเป็นช่วงต้นเดือนจึงไม่มีดวงจันทร์บนท้องฟ้า และพื้นที่ Luocheng ทั้งหมดก็มืดมิด มีเพียงโคมไฟและคบเพลิงที่พระสงฆ์ประจำการอยู่บนผนังของ Luocheng เท่านั้นที่สะท้อนเงาสีดำขนาดใหญ่บน หัวหน้าเมือง
พร้อมกับเสียงร้องของอีกา มันเพิ่มความรู้สึกเป็นลางไม่ดีให้กับค่ำคืนที่มืดมิดนี้
ในห้องประชุม
เป็นตัวแทนของพระภิกษุผู้แปลงร่างเทพเจ้าทั้งสอง ในที่สุดแผนการฝ่าวงล้อมที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้ก็ถูกกำหนดขึ้น:
“การเตรียมการเฉพาะสำหรับแผนการแหกคุกในเวลาเที่ยงคืนคืนนี้มีดังต่อไปนี้…”