ในช่วงดึก จู่ๆ วิดีโอก็ขึ้นหน้าแรกของสื่อทุกประเภท ยกเว้นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น
ชื่อของวิดีโอคือ “คำขอโทษอย่างจริงใจจาก ฮาวเวิร์ด สังฆราชคนปัจจุบันของตระกูลรอธไชลด์”
ในวิดีโอ ฮาวเวิร์ด จงใจแต่งตัวให้ดูแก่มาก ดูโทรมและป่วยมาก ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะตายในไม่ช้า
เหตุผลที่ ฮาวเวิร์ด แต่งตัวแบบนี้ก็เนื่องมาจากคำแนะนำที่มอบให้เขาโดยกลุ่มนักคิด อ่านนิยายออนไลน์
กลุ่มนักคิดเชื่อว่าการดูแคลนความชราและความโชคร้ายสามารถช่วยให้ผู้คนรู้สึกเห็นอกเห็นใจและลดความเกลียดชังและตำหนิบุคคลโดยไม่รู้ตัวได้
เปรียบเสมือนการขโมยของ ชายหนุ่มอายุ 20 ปี มีมือดี ขโมยกระเป๋าสตางค์ของคนอื่น เช่นเดียวกับคนป่วยหนักอายุ 80 ปี ที่กำลังจะตายก็ขโมยกระเป๋าสตางค์ของคนอื่น แม้ว่าของจะ เหมือนกัน ไม่มีความแตกต่างในธรรมชาติแต่อย่างหลังสามารถรับความอดทนจากสังคมได้มากขึ้น
แม้ว่าการปล่อยให้ ฮาวเวิร์ด มีชีวิตอยู่ในวัยชราและใช้ชีวิตในความทุกข์ยากจะทำลายภาพลักษณ์ของเขา แต่ก็จะช่วยบรรเทาความเกลียดชังของสาธารณชนต่อครอบครัวรอธไชลด์ ได้ตั้งแต่แรก
การตัดสินของนักคิดนั้นถูกต้องจริงๆ เมื่อ ฮาวเวิร์ด ปรากฏตัวหน้ากล้องราวกับว่าเขากำลังจะตาย ผู้คนต่างรู้สึกเห็นใจ ไม่มากก็น้อย
ทันทีที่ ฮาวเวิร์ด เปิดปาก เขาก็ตรงไปที่หัวข้อนั้น และพูดด้วยความเสียใจไม่รู้จบ: “คุณต้องรู้อยู่แล้วว่าแมตต์ รอธส์ไชลด์ ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลรอธส์ไชลด์ ได้ก่อความผิดพลาดและอาชญากรรมที่ไม่อาจให้อภัยได้ แม้ว่าแมตต์ สิ่งที่รอธส์ไชลด์ ทำนั้นล้วนแต่ทำไปทั้งสิ้น พฤติกรรมส่วนตัวของเขา แต่ในฐานะผู้เฒ่าแห่งตระกูลรอธไชลด์ ฉันยังคงมีความรับผิดชอบในการกำกับดูแลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!”
“และฉันในฐานะผู้เฒ่าแห่งตระกูล รอธส์ไซลด์ ไม่ได้ยืนขึ้นและขอโทษต่อ สาธารณชน . แต่ฉันพยายามที่จะใช้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาของเขา และแทรกแซงความยุติธรรมของศาลเพื่อประโยชน์ของเขา ฉันทำสิ่งนี้ ” มันโง่มากและผิดมาก ณ ที่นี้ ฉันต้องขอแสดงความเสียใจต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องและประชาชนของสหรัฐอเมริกาอย่างจริงจัง!”
กลุ่มนักคิดของ ฮาวเวิร์ด รู้ดีว่าการหลีกเลี่ยงสิ่งที่สำคัญและใช้ประโยชน์จากผู้เยาว์หมายความว่าอย่างไร
หากพวกเขาโยนความผิดทั้งหมดให้กับ แมตต์ ตั้งแต่เริ่มต้น มันจะกระตุ้นให้สาธารณชนไม่พอใจอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงขอให้ ฮาวเวิร์ด ริเริ่มที่จะมอบสิ่งที่เรียกว่าความรับผิดชอบที่ไม่อาจเลี่ยงได้สำหรับความประมาทเลินเล่อให้กับตัวเองพร้อมทั้งส่งต่อความผิดให้กับ แมตต์
ด้วยวิธีนี้จะไม่เพียงบรรเทาความเกลียดชังของผู้ฟังเท่านั้น แต่ยังคิดโดยไม่รู้ตัวว่าแมตต์เป็นคนที่ทำสิ่งเลวร้ายทั้งหมด ในขณะที่ฮาวเวิร์ด เป็นผู้ปกครองที่ไม่สามารถควบคุมลูก ๆ ของเขาได้ แต่ต้องยืนหยัดและรับผิดชอบ เพื่อลูกๆของเขา..
ยิ่งไปกว่านั้น ฮาวเวิร์ด ยังยอมรับว่าเขาพยายามติดสินบนบรูซ ไวน์สไตน์ ซึ่งถือได้ว่ามีความกล้าหาญในระดับหนึ่ง
สิ่งที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นคือสิ่งที่ถูกเปิดเผยคือโทรศัพท์ของ ฮาวเวิร์ด ที่โทรหา บรูซ จากเนื้อหาในการโทรนั้นเพียงอย่างเดียว คงเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าเขาก่ออาชญากรรม ดังนั้น แม้ว่าเขาจะสารภาพโดยสมัครใจ เขาก็ไม่จำเป็นต้อง รับผลทางกฎหมายใด ๆ แต่ในหมู่ประชาชน มันได้รับความโปรดปรานจำนวนหนึ่ง ดังนั้นการเคลื่อนไหวนี้จึงถือได้ว่าซับซ้อน
ในเวลานี้ ฮาวเวิร์ด พูดต่อด้วยใบหน้าเศร้า: “แม้ว่า แมตต์ จะเป็นหลานชายที่รักที่สุดของฉัน แต่เขาได้ทำผิดพลาดมากมาย และยังฝ่าฝืนกฎหมายของสหรัฐอเมริกาด้วย ดังนั้น ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวรอธไชลด์ ฉันผู้เฒ่า เช่นเดียวกับพลเมืองของสหรัฐอเมริกา ขอรับรองกับเพื่อนชาวอเมริกันทุกคนว่าพวกเขาจะไม่ปกป้อง แมตต์ ไม่ต้องพูดถึงการผ่อนผันให้เขาเลย ไม่ว่าศาลจะตัดสินลงโทษเขาด้วยอาชญากรรมและคำพิพากษาใดก็ตาม ครอบครัว รอธส์ไซลด์ จะถือว่าเขาเสมอ กันเป็นครอบครัว ร้อยปีแห่งความน่าเชื่อถือ ดั่งสัญญา ไม่เคยก้าวก่ายแต่อย่างใด!”